โฮโม เซเปียนส์ : ระเบียบวิธีวิจัย
จริงหรือเท็จ? ที่นักโบราณคดีสามารถใช้ภาพถ่ายดาวเทียมมาค้นหาตำแหน่งในการขุดได้
เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการ มาจากสายพันธุ์อื่นหรือเปล่า รถขุดเนี่ยนะ? ใช่แล้ว บางครั้งเราพบร่องรอยหลักฐาน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เข้าโดยบังเอิญในขณะที่ทำอะไรบางอย่างอยู่ เช่นที่นี่ ซึ่งกำลังสร้างถนนกันอยู่ บางทีเราก็พบบางสิ่งบางอย่าง จากภาพถ่ายดาวเทียม อย่างเช่นสุสานโบราณ หรือลักษณะของภูมิประเทศที่แสดงถึง การเคยเป็น บริเวณที่ตั้งถิ่นฐานในยุคก่อน ประวัติศาสตร์ โอ้ เหมือนพวกเขาจะพบบางสิ่งแล้วล่ะ มันคือเศษหม้อที่แตก พวกเขาต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คือ 'นักโบราณคดี' มา นักโบราณคดีขุดลงไปในหลุม มันคือพื้นที่ขุด พื้นที่ขุดนั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม ที่มีผนังตรงเป็นแนวตั้ง และมีผนังเป็นลาย ในนั้นมีชั้นดินหลายชั้น ทั้งใบไม้เน่าเปื่อย, ทราย และกรวดอัดแข็งที่เกิดขึ้นมา นานมากแล้ว ก็เหมือนกับตอนที่เราทำเค้กนั่นแหละ ชั้นล่างสุดนั้นคือชั้นแรก และชั้นบนสุดก็เป็นชั้นสุดท้าย ดังนั้น นักโบราณคดีจึงรู้ว่ากระดูก ที่พบในชั้นที่ 7 ถูกฝังอยู่ในนั้นก่อน ก่อนเศษหม้อที่แตกเสียอีก กระดูกจึงมีอายุเก่าแก่กว่า แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าอายุของหม้อ หรือกระดูกเก่ามากแค่ไหน พวกเขาจึงส่งโบราณวัตถุนั้นไปยัง ห้องปฏิบัติการ สัตว์และพืชทั้งหมดที่อาศัยอยู่บนโลก จะมีคาร์บอนบางชนิดอยู่ ซึ่งเป็นสารกัมมันตภาพรังสีอ่อนๆ หรือ 'คาร์บอน 14' เมื่อพืชหรือสัตว์ตายลง คาร์บอน 14 บางส่วนจะเริ่มย่อยสลาย การวัดอัตราส่วนของคาร์บอน 14 ที่มีอยู่ในสิ่งเหล่านั้น เราจะรู้ได้ว่ามันตายมานานแค่ไหนแล้ว เราเรียกวิธีนี้ว่า กรรมวิธี C-14 ซึ่งมันใช้ได้ดีกับทุกอย่าง ตั้งแต่บันทึกเก่าๆ กระดูก และ เศษอาหาร ตอนนี้นักโบราณคดีรู้แล้วว่า เศษอาหารในหม้อนั้น มีอายุ 1,000 ปี และกระดูกที่พบในชั้นที่ 7 ก็มีอายุ 19,000 ปี พวกเขาขุดลึกลงไปอีก ดูกะโหลกที่พบในชั้นที่ 22 สิ นักโบราณคดีสงสัยว่ากะโหลกนี้ ไม่ใช่กระโหลกของโฮโม เซเปียนส์ พวกเขาจึงเรียกเพื่อนร่วมงานมาที่นี่ เขาเป็นนักมานุษยวิทยา ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องมนุษย์วานรในยุคก่อน กะโหลกติดแน่นอย่างกับติดในคอนกรีต นักมานุษยวิทยาต้องทำให้มันแตกเพื่อเอา บางส่วนออกมา ดินชั้นนี้ถูกกดทับเข้าด้วยกัน มาเป็นเวลาแสนๆปี สิ่งที่อ่อนนุ่มก่อนหน้า จึงกลายเป็นหิน กะโหลกที่ว่าได้กลายเป็นฟอสซิล ที่เก่าแก่ และมันอาจมีอายุมากกว่า 50,000 ปี ดังนั้นกรรมวิธี C-14 จึงไม่ได้ผลอีกแล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากในการระบุอายุ ของวัตถุในชั้นที่ 22 ทว่าชั้นที่อยู่เหนือและใต้กะโหลก คือชั้นที่ 21 และ 23 มีเถ้าจากภูเขาไฟที่แข็ง มันเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ สองครั้งที่แตกต่างกัน และเถ้าจากภูเขาไฟนี้ ก็สามารถระบุอายุได้ โดยการวัดสารกัมมันตภาพรังสี และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง นับจากวันที่เถ้าพวกนี้ก่อตัวขึ้น จากตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า ชั้น 21 มีอายุ 300,000 ปี และชั้นที่ 23 มีอายุ 400,000 ปี ตอนนี้นักวิจัยรู้แล้วว่า ชั้นที่อยู่ระหว่างกลางนั้นมีอายุอยู่ที่ 300,000 - 400,000 ปีมาแล้ว กะโหลกนั้นถูกพบที่ส่วนบนสุดของชั้น 22 นั่นทำให้พวกเขาเชื่อว่า มันมีอายุราว 300,000 ปี บางทีเจ้าของกะโหลกนี้อาจจะตาย เพราะการปะทุของภูเขาไฟ และถูกฝังไว้ด้วยเถ้าภูเขาไฟนี้ก็ได้ ตอนนี้กะโลกได้ถูกนำไปตรวจสอบ ในห้องแลป โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระดูก คือนักกระดูกวิทยา พวกเขาชั่งน้ำหนัก วัด และเปรียบเทียบมัน พวกเขาสามารถระบุได้ว่า กะโหลกนี้ เป็นของพวกโฮโม เซเปียนส์หรือไม่ หรือเป็นสายพันธุ์อื่นที่สูญพันธ์ุไปแล้ว พวกเขายังสามารถระบุเพศของโครง กระดูกได้ด้วย ทั้งโรคที่เป็นตอนตาย รวมถึงขนาดของสมองด้วย กะโหลกนี้ยังอยู่ในสภาพดี และมีลักษณะที่ชัดเจน ว่าเป็นมนุษย์เพศหญิงสายพันธุ์ 'นีแอนเดอร์ทาล' มันถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถ เก็บดีเอ็นเอได้จากฟัน ผลวิเคราะห์จากดีเอ็นเอยืนยันแล้ว ว่ากะโหลกนี้เป็นเพศหญิง และเธอมีชีวิตอยู่เมื่อราว 300,000 ปีก่อน และเธออาจมีดวงตาสีน้ำตาล และมีผมสีแดง ความรู้ด้านวิวัฒนาการของมนุษย์ พัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปทุกขณะ นักวิจัยจากสาขาต่างๆ ในหลายสาขาวิชา ได้ร่วมมือกันและใช้ วิธีการและทางเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจ ว่าพวกเรามาจากที่ใด