กลุ่มธาตุในตารางธาตุ

มีอะตอมอยู่มากกว่าร้อยชนิด ของแต่ละธาตุที่แตกต่างกัน ธาตุต่างๆได้แบ่งกลุ่มไม่เหมือนกัน ธาตุส่วนใหญ่นั้นเป็นโลหะ ทว่าส่วนหนึ่งก็เป็นอโลหะ มีธาตุบางตัวที่ทำปฏิกิริยากับน้ำได้ไวมาก แต่ธาตุบางตัวเป็นแก๊สและไม่ทำ ปฏิกิริยากับธาตุใดเลย คุณสมบัติของธาตุนั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของอะตอม แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ วิธีการจัดเรียงของอิเล็กตรอน สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสร้างระบบธาตุต่างๆ ขึ้นมาได้อย่างชาญฉลาด เริ่มด้วยการวางธาตุต่างๆลงไปในแถวยาว โดยเรียงจากอะตอมที่มี จำนวนอิเล็กตรอนน้อยที่สุด ไปหาอะตอมที่มีอิเล็กตรอนมากที่สุด อิเล็กตรอนในอะตอมจะรวมตัวกัน อยู่ตรงกลางในชั้นของอิเล็กตรอน ลองนำธาตุเหล่านั้นใส่ลงไปในคาบต่างๆดูสิ ธาตุที่มีชั้นของอิเล็กตรอนอยู่ เพียงชั้นเดียวจะอยู่ในคาบแรก ส่วนธาตุที่มีชั้นของอิเล็กตรอน 2 ชั้นก็จะอยู่ในคาบที่สอง และธาตุที่มีชั้นของอิเล็กตรอน3ชั้น ก็จะอยู่ในคาบที่สามและต่อเนื่องเรื่อยๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้น ตอนนี้เรามีธาตุอยู่ 7 คาบด้วยกัน เริ่มจากธาตุที่มีชั้นของอิเล็กตรอน น้อยที่สุดคือ 1 ชั้น ถึงธาตุที่ใหญ่ที่สุดมีอิเล็กตรอนเจ็ดชั้น กลับมาที่อะตอมของธาตุที่พูดค้างกันไว้ พวกมันทำปฏิกิริยากับน้ำได้ง่ายมาก และจะมารวมตัวอยู่ในแถวเดียวกัน แล้วแก๊สที่ไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุใดๆล่ะ แก๊สพวกนั้นจะอยู่ในแถวสุดท้ายของตาราง แต่ความยาวของแต่ละแถวจะไม่เท่ากัน แถวของธาตุพวกนี้จึงไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก แล้วเราจะจัดการมันยังไงได้บ้างล่ะ มาดูเรื่องการจัดเรียงอิเล็กตรอน ในอะตอมกันอีกครั้งนะ สิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินว่า ปฏิกิริยาของธาตุนั้นๆและจำนวน ของอิเล็กตรอน ในชั้นของอิเล็กตรอน ชั้นนอกสุดจะเป็นอย่างไร ความจริงแล้ว เหตุผลที่ธาตุต่างๆ ในแถวแรกทำปฏิกิริยาไปทิศทางเดียวกัน ก็เพราะว่ามันมีบางอย่างเหมือนกัน ซึ่งก็คือพวกมันมีอิเล็กตรอนเพียงตัวเดียว อยู่ที่ชั้นนอกสุดของอิเล็กตรอน ซึ่งก็คือ มันมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 1 ตอนนี้ ถ้าเราเลื่อนแถวพวกนี้ออกไปสักนิด ธาตุที่มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 3 จะมารวมตัวกันลงไปอยู่ในแถวแนวตั้ง ตอนนี้เรามีที่ว่างตรงกลางเหลืออยู่ แต่ดูนั่น การทำแบบนี้ ธาตุที่มี เวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ สี่ ห้า หก และ เจ็ดเวเลนซือีเล็ตรอน ก็จะเข้าไปอยู่ในแถวโดยเรียงกันไป รวมทั้งแก๊สเฉื่อยที่เราพูดถึงไปแล้ว ซึ่งมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 8 โอ้ว ใช้แล้ว อะตอมที่อยู่ตรงนี้ มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนอยู่แค่ 2 เท่านั้น แถมมันก็ยังเป็นแก๊สเฉื่อยด้วย ดังนั้นมันก็ควรที่จะกลับไปอยู่ที่แถวนั้น ด้วยเหมือนกัน ตอนนี้เราก็มีตาราง ที่ซึ่งสามารถนำธาตุต่างๆมาแสดง คุณสมบัติที่มี ให้อยู่ในแถวเดียวกันได้ คาบของธาตุในแนวนอนจะบอกว่า อะตอมนั้นมีชั้นของอิเล็กตรอนเท่าไหร่ แต่แถวจะบอกได้ว่าอะตอมนั้น มีอิเล็กตรอนอยู่เท่าไหร่ ในชั้นของอิเล็กตรอนที่อยู่นอกสุด ตอนนี้เราสามารถจัดเรียงธาตุต่างๆได้แล้ว จากเส้นยาวๆกลายมาเป็นตาราง ตอนที่นำธาตุต่างๆใส่ลงไปในแถว แค่แถวเดียว คุณสมบัติของธาตุแต่ละตัวปรากฏขึ้น เป็นช่วงเป็นตอน หรือ เป็นช่วงเวลา นี่คือเหตุผลว่าทำไมธาตุต่างๆในตารางนี้ ถึงถูกเรียกว่าตารางธาตุ