น้ำ

ดูสิ ขวดนี่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว อะไรนะ ก็ตอนที่ฉันเอามันออกมา จากช่องแช่แข็งเมื่อตอนเช้า ขวดมันใหญ่ขึ้นมากเลยนะ ใหญ่จนเหมือนมันจะระเบิดได้อย่างนั้นล่ะ บางทีน้ำในขวดมันอาจจะซึมออกมาก็ได้นะ ไม่หรอก เพราะเมื่อไหร่ที่น้ำแข็งเริ่มละลาย มันก็จะกินพื้นที่ในขวดน้อยลง ท่าจะจริง เข้ามาดูในขวดกันใกล้ๆดีกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำเย็นจัด จนกลายเป็นน้ำแข็ง โมเลกุลของมันก็จะเป็นผลึกคริสตัล และเมื่อโครงสร้างโมเลกุลของน้ำ อยู่ในรูปของผลึกคริสตัล มันจะมีพื้นที่ว่างบางส่วน ระหว่างโมเลกุลเหลืออยู่ แต่เมื่อน้ำแข็งละลาย โมเลกุลของน้ำก็จะกระจัดกระจาย และเข้ามาแนบชิดกันเหมือนเดิม มันถึงได้กินพื้นที่ขวดน้อยลงไง เข้าใจตรงกันแล้วนะ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ น้ำมันเย็นน่ะสิ และนี่ก็เป็นคุณสมบัติที่สำคัญ เป็นอันดับที่ 2 ของน้ำเลยรู้ไหม มันต้องใช้พลังงานสูงมาก ในการทำให้น้ำร้อนขึ้น หรือทำให้น้ำแข็งละลาย ทีนี้คงรู้กันแล้วว่าทำไมน้ำในขวด ถึงยังเย็นอยู่ได้นานหลังจากที่ลีออน เอามันออกมาจากตู้แช่แข็งแล้วน่ะ ว่าแต่ทำไมมันถึงลอยน้ำล่ะ ช่วยอธิบายให้ฟังที ได้สิ เมื่ออยู่ในสถานะของแข็ง น้ำจะกินพื้นที่ ในบริเวณที่มันอยู่ มากกว่าตอนที่เป็นของเหลว จำได้ไหม นั่นทำให้น้ำแข็งมีน้ำหนักเบากว่าน้ำ ทั้งยังมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำธรรมดา น้ำเป็นสิ่งที่มีความเฉพาะตัวในแบบของมัน ความหนาแน่นของสารประกอบส่วนใหญ่ ที่เป็นของแข็งจะมีสูงกว่า สารประกอบที่อยู่ในรูปของเหลว น้ำแข็งมีความเบาจึงทำให้มันลอยน้ำได้ ทั้งยังถูกล้อมรอบด้วยน้ำมากมาย ที่มาจากอากาศที่เย็นด้วย ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ปลาสามารถ มีชีวิตอยู่รอดได้ในฤดูหนาว ไม่ว่าอากาศจะหนาวจัดหรือน้ำที่พวกมัน อาศัยอยู่จะกลายเป็นน้ำแข็งก็ตาม น้ำเป็นสารประกอบเพียงอย่างเดียวในโลก ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและสามารถ เกิดขึ้นได้ทั้ง 3 สถานะ เป็นของแข็ง คือ น้ำแข็ง เป็นของเหลว คือ น้ำ และเป็นแก๊ส คือ ไอน้ำ นี่คือเทอร์โมมิเตอร์ ซึ่งจะวัดอุณหภูมิ ของน้ำออกมาเป็นองศาเซลเซียส ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าน้ำดำรงสถานะเป็นอะไร เมื่อน้ำเย็นจัดจนเป็นน้ำแข็ง อุณหภูมิ ที่วัดได้จะเท่ากับ 0 องศาเซลเซียส และเมื่อน้ำถูกต้มจนเดือด อุณหภูมิที่ได้ก็จะเป็น 100 องศาเซลเซียส แต่ถ้าฉันต้มน้ำไปเรื่อยๆล่ะ มันก็จะยิ่งร้อนขึ้นใช่หรือเปล่า ไม่ใช่เลย เมื่อไหร่ที่น้ำเดือด มันจะเปลี่ยน สถานะไปเป็นแก๊ส ดังนั้นน้ำที่กำลังเดือดจะไม่ร้อน เกินกว่า 100 องศาเซลเซียสอีกแล้ว ทว่าที่บนยอดเขานั้นล่ะ หากเราต้มน้ำท่ามกลางอุณหภูมิที่ต่ำ ที่บนนั้น ความดันอากาศที่เข้ามาต้าน กับน้ำจะมีน้อยกว่า และในทางกลับกัน ถ้าน้ำถูกล้อมไปด้วยความดันอากาศ ที่มากกว่า อุณหภูมิที่จุดเดือดของมันก็สามารถ สูงกว่า 100 องศาเซลเซียสได้ แถมยังไม่เปลี่ยนสถานะเป็นแก๊สด้วยนะ ถือว่าเราโชคดีมากที่มีน้ำอยู่มากขนาดนี้ ฉันหมายถึงว่าเราเอามันไปใช้ ประโยชน์ได้หลายเรื่องน่ะ ทั้งใช้ดื่ม ใช้อาบ ใช้รดน้ำต้นไม้ แถมยังได้กินปลาจากทะเลสาบด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดของการใช้น้ำ การขนส่งทางน้ำก็มีค่ากับเรามากทีเดียว ไม่ใช่แค่เรือเท่านั้นหรอก แต่พืช มนุษย์ และสัตว์ ก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยน้ำ ในการขนส่งทุกอย่าง หากปราศจากน้ำ ทุกชีวิต ก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้เช่นกัน 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่บนโลกใบนี้ ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมหาสมุทร แต่ก็ยังมี ทะเลสาบและแม่น้ำปะปนอยู่ด้วย ภาวะขาดแคลนน้ำยังคงมีอยู่ในหลายพื้นที่ เหตุปัจจัยแรกก็คือน้ำส่วนใหญ่ จะอยู่มหาสมุทร และน้ำในนั้นมีรสเค็ม ซึ่งเราไม่อาจดื่มมันได้ และนำไปใช้ในการเพาะปลูกไม่ได้เช่นกัน มีแหล่งน้ำแค่ 3 เปอร์เซ็นต์บนโลกเท่านั้น ที่เป็นน้ำจืดและสามารถดื่มได้ ทว่ามันกลับซับซ้อนกว่านั้นมาก ส่วนใหญ่แล้วแหล่งน้ำจืดที่สามารถดื่มได้ กลับเป็นจุดที่เราเข้าไม่ถึง เพราะถ้าไม่ใช่น้ำที่กลายเป็น น้ำแข็งในขั้วโลก มันก็อยู่ในชั้นใต้ดินที่ลึกมาก จนเราไม่อาจไปเอามันมาใช้ได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางพื้นที่ที่มี ประชากรมากยังขาดแคลนน้ำอยู่ หรือบางที่ก็เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ที่ทำกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่ฝนแล้ง ซึ่งคนที่นั่น จำต้องขุดน้ำ จากใต้ดินขึ้นมาใช้ อืม แต่เหมือนตอนนี้เราจะลืมคุณสมบัติ ที่สำคัญอีกข้อของน้ำไปแล้วนะ - งั้นเหรอ - ก็มันช่วยเรื่องไข่เน่าได้ไงล่ะ