เคมีอินทรีย์
จริงหรือเท็จ? สารอินทรีย์สามารถเกิดขึ้นได้ในสิ่งมีชีวิตเท่านั้น
ถ้าเราออกไปซื้อของในห้าง ก็จะพบว่า มีสินค้ามากมายที่มีคำว่า สินค้าอินทรีย์ติดอยู่ที่ป้ายผลิตภัณฑ์ ในบริบทนี้ คำว่า อินทรีย์ จะถูกนำมาใช้เพื่อทำให้สินค้าดูเหมือน ผลิตขึ้นมาจากแหล่งธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามในทางเคมี คำว่า อินทรีย์ นี้กลับแตกต่างออกไป ทั้งยังมีความหมายเฉพาะกว่าด้วย แต่เดิมนั้น นักวิทยาศาสตร์จะใช้มัน เมื่อทำการศึกษาสารต่างๆ ที่พบในสิ่งมีชีวิต หรือเคมีอินทรีย์ ทุกวันนี้อาจกล่าวได้ว่า เคมีอินทรีย์นั้น คือการศึกษาที่เน้นไปที่สารประกอบ คาร์บอนเป็นหลัก โดยไม่แบ่งแยกว่ามันจะเกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติหรือถูกสังเคราะห์ขึ้น ส่วนใหญ่แล้วสิ่งมีชีวิตทุกชนิด จะถูกสร้างขึ้นมาจาก สารอินทรีย์อย่างเช่นโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ส่วนรถยนต์ก็ได้รับพลังงานจาก สารประกอบอินทรีย์ที่สร้างขึ้นมาจากน้ำมัน และยาเกือบทั้งหมดก็จัดเป็น สารประกอบอินทรีย์ นอกจากนี้ยังมีพลาสติกทุกชนิด รวมทั้งเส้นใยสังเคราะห์ที่เราใช้ ทำเครื่องนุ่งห่ม จนถึง ค.ศ. 1800 เรามีความเข้าใจว่า สารประกอบอินทรีย์ เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเท่านั้น ในปัจจุบันนี้มนุษย์สามารถ ผลิตสารอินทรีย์หลากหลายชนิดได้ ทั้งจากในห้องทดลองและโรงงาน มีสารประกอบอยู่มากกว่า 10 ล้านชนิด ที่เรารู้จัก และเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์นั้น มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบ ในการทำความเข้าใจโครงสร้าง ของสารประกอบอินทรีย์นั้น เราเริ่มต้นด้วยการดูห่วงโซ่พันธะ ของอะตอมคาร์บอน ซึ่งมีอะตอมของไฮโดรเจนล้อมรอบมันอีกที รูปร่างของโซ่พันธะนั้นอาจเป็นเส้นตรง เป็นโซ่ที่แตกกิ่งก้านออกไป หรืออาจเป็นวงกลมก็ได้ ความยาวของโซ่พันธะคาร์บอน จะกำหนดชื่อของโมเลกุล นี่คือตัวอย่างของสารประกอบเพนเทน ซึ่งชื่อตัวแรกของมันก็คือคำว่า เพนท์ ซึ่งมาจากความยาวของโซ่พันธะในคาร์บอน มีคาร์บอน 5 ตัวในแถวเดียว จะมีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า เพนท์ เสมอ ส่วนที่สองของชื่อนั้นจะบอกเราว่า ที่อะตอมของคาร์บอนมีอะไรอยู่ ถ้ามันมีเพียงอะตอมของไฮโดรเจน ชื่อท้ายของสารประกอบจะลงท้ายด้วย เอน เพนท์ เอน ส่วนสุดท้ายของชื่อของสารนั้นก็ เหมือนนามสกุล มันจะบอกเราว่าสารตัวนั้นอยู่ในตระกูลใด ที่โมเลกุลของอินทรีย์สาร เหมาะจะไปอยู่ด้วย ถ้าเราแทนที่อะตอมของไฮโดรเจนตัวหนึ่ง ด้วยอะตอมกลุ่มอื่น หรือการทำงานแบบอื่น โมเลกุลนั้นก็จะมีนามสกุลอื่น เช่นสารที่ชื่อว่า เพนท์ อะนอล ซึ่งอยู่ในตระกูลของแอลกอฮอล์ ซึ่งชื่อต้นนั้นก็ยังขึ้นด้วยคำว่า เพนท์ เพราะว่ามันมีโซ่พันธะของอะตอม ที่คาร์บอนอยู่ 5 อะตอมไงล่ะ และชื่อท้ายที่เป็นนามสกุลคือคำว่า อะนอล ก็จะอยู่ในตระกูลของแอลกอฮอล์ และนี่คือสมาชิกอีกตัวหนึ่งของ ตระกูลแอลกอฮอล์ที่ชื่อ เอท อะนอล คำว่าอะนอลทำให้เรารู้ว่ามันคือ แอลกอฮอล์ ในขณะที่ชื่อแรกคือ เอท บอกให้เรารู้ว่ามีอะตอมของคาร์บอนอยู่ 2 อะตอมในโซ่พันธะคาร์บอนนี้ เมื่อเราทำการศึกษาเรื่องเคมีอินทรีย์ เราต้องรู้ว่าชื่อแรกของสารนั้น สอดคล้องกับเลขตัวไหน ของอะตอมในคาร์บอน ทั้งยังมีนามสกุลของตระกูลต่างๆ ของสารประกอบต่างๆอีกด้วย เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราก็สามารถที่จะ เอาชื่อแรก มาใส่ไว้พร้อมกับนามสกุล เพื่อทำให้ชื่อของสารอินทรีย์นี้ กลายเป็นชื่อที่สมบูรณ์